วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เมื่อรู้จักความรัก


  รักครั้งแรก

          ครั้งหนึ่งของความรักที่แม้จะผ่านมาหลายปีแต่ก็ไม่เคยลบเลือนไปจากหัวใจ  ดังคำที่เคยมีคนพูดไว้ว่า “รักแรกยากจะลืม” ถึงจะไม่ใช่รักที่สมหวังและตอนจบก็ไม่ได้จากกันด้วยดี  แต่มันยังคงติดอยู่ในใจไม่เคยจางหายไปจนถึงทุกวันนี้  และคำที่ว่า “อกหักดีกว่ารักไม่เป็น” ก็เป็นอีกคำพูดหนึ่งที่ยังสะท้อนอยู่ในหัว  แม้รักจะทุกข์แต่ครั้งหนึ่งหากได้สัมผัสแม้จะช่วงเวลาสั้นๆแต่มันก็ทำให้เรามีทั้งความสุขและความทุกข์  ได้หัวเราะและร้องไห้ ทุกครั้งที่คิดถึงทำให้คิดว่าชาตินี้ไม่เสียทีที่ได้เกิดแล้ว  แม้ตอนนี้หัวใจมันยังชาๆถึงจะเคยหลอกตัวเองว่าลืมมันได้แล้วแต่เมื่อยามอยู่คนเดียวเรื่องราวเก่าๆก็ยังคงย้อนกลับมาเหมือนเพิ่งจะผ่านไปไม่นาน
           ชีวิตแสนสุขของเด็กนักเรียนมัธยมต้นคงไม่มีอะไรมากนอกจากเรียนและเล่น  ทุกอย่างเป็นไปอย่างนี้  ฉันตอนนั้นก็เป็นแบบนี้เหมือนกันถึงเวลาเรียนก็เรียนถึงเวลาเล่นก็เล่น  แต่กีฬาที่ฉันเล่นกับพวกเพื่อนๆในตอนนั้นอาจมีหลายอย่างแล้วแต่เสียงส่วนใหญ่  ตอนนั้นฉันมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงสองคนคนหนึ่งเรียนห้องคิงด้วยกันอีกคนเรียนห้องสำหรับเด็กที่หัวอ่อน  ที่เหลือเป็นเพื่อนผู้ชายนี้ก็ไม่จำกัดห้องและรุ่นด้วย  แรกๆฉันคิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงด้วยซ้ำเพราะเพื่อนหนึ่งที่เรียนในห้องสำหรับเด็กที่หัวอ่อน  คนนั้นฉันเคยจีบมาแล้วโดยไม่ได้บอกให้เจ้าตัวรู้ด้วยน่ะนะ  วิธีจีบหญิงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรมาก  ขอแค่ได้อยู่ใกล้ก็มีความสุขมีความฝันร่วมกัน  อย่างเช่นตอนเช้าก็ไปรับมาโรงเรียนด้วยกันถ้าเขามีเวรต้องทำความสะอาดห้องก็ช่วยเขาทำ  มีการบ้านที่เขาทำไม่ได้ก็ช่วยสอนให้หรือบางครั้งที่รีบมากๆถึงกับทำให้ก็มีตอนเย็นก็กลับบ้านด้วยกันแค่นี้ก็สุขโค-ตะ-ระ แล้ว  แต่ด้วยความที่เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเวลาว่างเลยไม่ตรงกันกิจกรรมส่วนมากของฉันระหว่างวันก็จะทำร่วมกับเพื่อนๆในห้องมากกว่าและจะเน้นหนักไปด้านกีฬามากกว่าวิชาการ  กิจกรรมสุดโปรดของพวกเราจะเป็นการเล่นตะกร้อโปรดไม่โปรดก็นะ  พอว่างปุบก็เตะตะกร้อปั๊บเพราะเรามีตะกร้อส่วนตัวที่ไม่ต้องไปขอยืมจากโรงเรียน 
เหตุการณ์ก็เป็นแบบนี้เป็นเรื่องปกติของพวกเราจนกระทั้งวันหนึ่งเพื่อนของฉันไปเจอจดหมายในโต๊ะเรียนตัวประจำของฉัน  ฉันจำข้อความในนั้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่เพราะว่าฉันไม่ได้อ่านเองแต่ข้อความร่วมๆมันมีความหมายว่าเขาเขียนมาจีบฉันซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียน  จากวันนั้นก็ผ่านไปนานเหมือนกันจนฉันลืมจดหมายนั้นไปแล้วก็มีรุ่นพี่มัธยมปลายกลุ่มหนึ่งมาขอเล่นตะกร้อด้วยซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เล่นเก่งและเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งเป็นประจำทำให้พวกฉันรู้จัก พวกเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะการได้เล่นกับคนที่เก่งกว่าก็ทำให้ฝีมือเราพัฒนาด้วย  จากวันนั้นที่รู้จักและเริ่มสนิทกันมากขึ้นเวลาผ่านไปนานเหมือนกันรุ่นพี่คนหนึ่งในกลุ่มเข้ามาจีบฉันและไปกลับโรงเรียนพร้อมกับฉันและเพื่อนที่ฉันจีบอยู่  นานวันเข้าก็เข้าทำนองน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน  ฉันก็เริ่มมีใจให้เขาก็เขาชอบแกล้งฉันพอแกล้งให้ฉันโกรธแล้วมักจะพูดว่า “รักดอกจึงหยอกเล่น” เป็นประจำ  จนวันไหนที่ฉันไม่เห็นหน้าเขาก็จะคอยมองหาเวลาที่ไม่มีเขาคอยกวนในมันทำให้ฉันรู้สึกขาดอะไรไปและนั้นมันทำให้ฉันรู้ว่าฉันเริ่มมีใจให้เขาเข้าแล้ว  และตอนนั้นเขาก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว แล้วเวลาของจุดจบก็เริ่มขึ้นที่กิจกรรมที่นักเรียนที่ใกล้จะเรียนจบที่มักจะแลกสมุดเฟรนชิฟกันเขียน 
วันหนึ่งก่อนจะกลับบ้านด้วยกันตามปกติเพื่อนของพี่คนนั้นฝากเจ้าสมุดเฟรนชิฟนั้นฝากไปคืนพี่คนนั้นเพราะรู้ว่าเราต้องกลับด้วยกัน  ก็นะตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นก็เลยถือวิสาสะเปิดอ่านก่อนที่เจ้าของเขาจะอนุญาตเลยเจอดีตั้งแต่หน้าแรก  เมื่อสิ่งที่อยู่หน้าแรกนั้นเป็นประวัติความชอบไม่ชอบของผู้เป็นเจ้าของ  มันก็คงไม่มีอะไรถ้าหนึ่งในข้อความของความชอบประโยคหนึ่งจะไม่เขียนว่า  เขารักผู้หญิงคนหนึ่งมากและมากที่สุด  ซึ่งแน่นนอนว่าชื่อนั้นไม่ใช่ฉันแต่เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับเขา  และหลังจากวันนั้นที่ฉันคืนเจ้าสมุดนั้นให้เขาแล้ว  ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกเลยไม่แม้แต่จะเดินเข้าไปใกล้ด้วยฉันกลัวใจตัวเองกลัวว่าจะเผลอพูดอะไรประชดเขาฉันไม่ต้องการคำแก้ตัว  เพราะตอนนั้นฉันเฝ้าบอกกับตัวเองตลอดเวลาหลังจากเกิดเรื่องว่าไม่มีเขาฉันก็อยู่ได้และจะอยู่ให้ได้ดีกว่าตอนที่มีเขาอยู่เสียอีก  จนกระทั้งเขาเรียนจบไปเราก็ไม่เคลียร์สิ่งที่ค้างคาใจกัน  ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเสียใจหรือเปล่าแต่ฉันเคยเสียน้ำตาให้กับเขาเพราะฉันไม่มีความหมายสำหรับเขาเลย  สิ่งต่างๆที่เคยทำร่วมกันมันไม่มีความหมายเลยซักนิด  และครั้งนั้นฉันก็ตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะไม่ขอรักใครนอกจากพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนอีก  จนกระทั่งวันนี้ฉันก็ยังทำอย่างที่ตั้งใจไว้แม้จะมีคนมาจีบฉันสิ่งแรกที่ฉันบอกออกไปคือถ้าจะคบฉันเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องฉันยินดีแต่ถ้าเกินนี้คงต้องไปหาจากคนอื่นที่เขายินดีจะให้ 
ความรักมีรูปแบบมากมายให้เลือกไม่จำเป็นต้องเป็นความรักฉันชู้สาวเสมอไปแต่อาจเป็นความรักความหวังดีในฐานะพ่อแม่พี่น้องเพื่อนที่พร้อมจะมอบสิ่งดีให้แก่กันและเป็นความรักที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

แนะนำตัวเอง

ชื่อ น.ส.แสงเดือน เขียวขจี
ชื่อเล่น เดือน
ที่อยู่ 106/1 ม.10ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด
วันเกิด 15 เม.ย.2538
อาหารที่ชอบ ผัดกะเพรา
สัตว์ที่ชอบ สุนัข
สีที่ชอบ ชมพู
งานอดิเรก นอน ฟังเพลง ดูหนัง เที่ยว
สเป็กผู้ชาย สูง ขาว หล่อ รวย หนวดปริ่มๆ
คติประจำตัว ฝันให้ไกล ไปให้ถึง